อารมณ์มันพาไปจริง ๆ นะ

อารมณ์มันพาไปจริง ๆ นะ

อารมณ์มันพาไปจริง ๆ นะ

ควันหลงจากเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มระหว่าง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ทีมรองบ่อนอย่าง ยัง บอยส์ จริง ๆ มันแทบไม่มีอะไรให้พูดถึงด้วยซ้ำถ้าหากว่าในช่วงท้ายเกมที่เจ้าบ้านได้ประตูชัยจากการยิงของ มารูยาน เฟลไลนี่ แล้ว โชเซ่ มูรินโญ่ นายใหญ่ของทีมไม่รู้ว่าเป็นอาการดีใจ สะใจ หรือต้องการระบายออกอะไรกันแน่ เพราะอยู่ดี ๆ เจ้าตัวก็เดินไปเตะลังน้ำที่วางอยู่ล้มไปอันหนึ่งแล้วยกอีกลังมาทุ่มลงพื้นจนกระจายไปหมด

ไม่บ่อยนักที่เราจะเห็นกุนซือระเบิดอารมณ์ขนาดนี้เมื่อทีมตนเองสามารถยิงประตูชัยได้ ทว่าเอาเข้าจริงก็พอมองเห็นอะไรบางอย่างจากการกระทำของกุนซือชาวโปรตุกีสรายนี้ เพราะตลอด 90 นาที ลูกทีมของเขาแทบไม่ได้แสดงการเป็นทีมใหญ่หรือการเป็นเจ้าบ้านออกมาให้แฟนบอลได้เห็นเลย มีแต่การจ่ายบอลติ๊ดชึ่งกันไปมาจนรู้สึกรำคาญในบางจังหวะ แถมการสร้างสรรค์เกมก็ไม่มีอะไรให้จดจำเลยจนกระทั่ง ปอล ป็อกบา ถูกส่งลงมา เกมค่อยเหมือนดูมีชีวิตชีวาขึ้นมานิดหน่อยแต่กว่าจะได้ประตูก็ปาเข้าไปช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งหลังแถมได้มาแบบงง ๆ ว่ายิงไปได้ยังไงล่ะนั่น มันเลยเป็นเหมือนสิ่งที่ทำให้ มูรินโญ่ เดือดดาลทำนองอุตส่าห์วางแผนแทบตายเกือบไม่ได้ 3 คะแนนกลับไปเหมือนเกมกับ คริสตัล พาเลซ เลยอาจเป็นสาเหตุให้เจ้าตัวสร้างช็อตจดจำของเกมไปโดยปริยาย

อารมณ์มันพาไปจริง ๆ

โชคยังดีที่ผลการตัดสินออกมาว่าการกระทำของเขาไม่ได้มีความผิดอะไรจึงทำให้เขาไม่โดนแบนคุมทีมในเกมนัดหน้า อาจด้วยเพราะสิ่งที่เขากระทำไม่ได้มีเจตนาไม่พอใจกับการตัดสินหรืออะไร มันเป็นเพียงแค่การระเบิดอารมณ์ในช่วงเวลาอันแสนน่าอึดอัดของเจ้าตัวออกมาเท่านั้น ซึ่งจริง ๆ แล้วหากมองในภาพของความเป็นกลาง มันก็พอทำให้เข้าใจได้เหมือนกันเพราะคิดว่าเจ้าตัวน่าจะโดนกดดันหนักมาตั้งแต่เกมเสมอกับ “ปราสาทเรือนแก้ว” ในลีกเมื่อตอนสุดสัปดาห์แล้ว พอมาเล่นกับทีมรองบ่อนในเกมยุโรปยังเล่นได้ห่วยแตกอีก มันก็ต้องมีอารมณ์เป็นเรื่องธรรมดา

จะว่าไปด้วยลีลาการคุมทีมของเขาก็พอรู้กันดีอยู่แล้วว่าเป็นประเภทดิบ ๆ ชอบหาเรื่องชาวบ้านหรือสร้างภาพจำให้กับคนอื่นไปทั่ว ดังนั้นการเขวี้ยงลังน้ำของกุนซือรายนี้จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรที่ทำให้เขาโดนมองในเชิงลบ ลำพังด้วยลักษณะการพูดจา การคุมทีมของเขามันก็ลบมากพออยู่แล้ว

อารมณ์มันพาไป